‘หลวงพี่ช้าง’ พระนักพัฒนาแห่งพรหมพิราม
Posted: Sun 10 Apr 2011 4:13 pm
เป็นที่รู้กันทั้งพรหมพิรามว่าหากใครหมดทางไป ตกงานไม่มีงานทำ ให้ตรงมาหา ‘หลวงพี่ช้าง’ รับรองไม่ผิดหวัง!! นี่ไม่ได้เป็นคำพูดที่เกินเลยความจริงมากนัก แต่ชาวบ้านร้านตลาดใน อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก และอำเภอใกล้เคียง ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พระรูปนี้ไม่ธรรมดา.. ‘หลวงพี่ช้าง’ หรือ เจ้าคุณอธิการเจริญ กิตติคุโณ เจ้าอาวาสวัดกรับพวงเหนือ เจ้าคณะตำบลพรหมพิราม มิได้เป็นภิกษุที่ได้รับการนับถือจากชาวบ้านในเรื่องการบำเพ็ญเพียรทางธรรม เพียงอย่างเดียว หรือมีกิริยาที่สำรวมตามรูปแบบของสงฆ์ทั่วไป
หากแต่เป็นพระที่ผู้คนศรัทธาในเรื่องของการพัฒนา ทำคุณประโยชน์ ชอบช่วยเหลือสังคม และให้โอกาสแก่เด็กที่มีฐานะยากจนที่ประสพพบเจอ และช่วยเหลือด้วยแรงกายแรงใจจนสุดความสามารถและส่งให้ถึงฝั่งฝัน เพราะชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นคนดีหรือเลวได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พระนักคิดนักพัฒนาแห่งพรหมพิราม ลงทุนลงแรงสืบค้นประวัติหาข้อมูลด้วยตัวเอง เด็กหลายคนที่ ‘หลวงพี่ช้าง’ ให้การช่วยเหลือด้วยการเขียนจดหมายส่งไปออกรายการต่างๆ ไม่นับที่ให้การอุปการะเลี้ยงดูและหางานให้ทำอีกเป็นสิบๆคน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ
นอกจากเรื่องช่วยเหลือและให้โอกาสคนแล้ว พระหนุ่มวัยย่างเลขสี่ยังพัฒนาวัดกรับพวงเหนือให้กลายเป็นศูนย์บริการชุมชน รวมทั้งมีกิจกรรมหลายอย่างให้กับชาวบ้าน มีทั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก วิทยุชุมชน กลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ โครงการเงินออมวันละบาท กลุ่มส่งเสริมอาชีพ มีทั้งทำไม้กวาด ทำหมวกสาน ติดแผงรับสัญญาณทีวี ติดจานดาวเทียม ฯลฯ
รวมถึงมีโรงเพาะเห็ดฟางขนาดใหญ่อยู่ภายในวัดด้วย ค่าจ้างและความสุขในการทำงานของ ‘หลวงพี่ช้าง’ ไม่มีอะไรมากไปกว่ารอยยิ้มของชาวบ้าน ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี ที่อยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ท่านเป็นพระที่ได้รับการนับถือศรัทธาจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเป็นอย่าง มาก ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างมิได้เกิดขึ้นจากการเป็นผู้ให้เพียงอย่างเดียว หากแต่มาจากการวางตัวที่เป็นกันเอง ง่ายๆ ติดดิน สบายๆ เพราะนั่นมันจะทำให้เข้าถึงชาวบ้านได้ง่ายกว่า ท่านว่าอย่างนั้น ติดตามเรื่องราวของพระนักคิดนักพัฒนา ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการมีแบบฉบับและความคิดเฉพาะตัวไม่เหมือนใครและไม่มี ใครกล้าเหมือน..
หากแต่เป็นพระที่ผู้คนศรัทธาในเรื่องของการพัฒนา ทำคุณประโยชน์ ชอบช่วยเหลือสังคม และให้โอกาสแก่เด็กที่มีฐานะยากจนที่ประสพพบเจอ และช่วยเหลือด้วยแรงกายแรงใจจนสุดความสามารถและส่งให้ถึงฝั่งฝัน เพราะชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นคนดีหรือเลวได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พระนักคิดนักพัฒนาแห่งพรหมพิราม ลงทุนลงแรงสืบค้นประวัติหาข้อมูลด้วยตัวเอง เด็กหลายคนที่ ‘หลวงพี่ช้าง’ ให้การช่วยเหลือด้วยการเขียนจดหมายส่งไปออกรายการต่างๆ ไม่นับที่ให้การอุปการะเลี้ยงดูและหางานให้ทำอีกเป็นสิบๆคน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ
นอกจากเรื่องช่วยเหลือและให้โอกาสคนแล้ว พระหนุ่มวัยย่างเลขสี่ยังพัฒนาวัดกรับพวงเหนือให้กลายเป็นศูนย์บริการชุมชน รวมทั้งมีกิจกรรมหลายอย่างให้กับชาวบ้าน มีทั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก วิทยุชุมชน กลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ โครงการเงินออมวันละบาท กลุ่มส่งเสริมอาชีพ มีทั้งทำไม้กวาด ทำหมวกสาน ติดแผงรับสัญญาณทีวี ติดจานดาวเทียม ฯลฯ
รวมถึงมีโรงเพาะเห็ดฟางขนาดใหญ่อยู่ภายในวัดด้วย ค่าจ้างและความสุขในการทำงานของ ‘หลวงพี่ช้าง’ ไม่มีอะไรมากไปกว่ารอยยิ้มของชาวบ้าน ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี ที่อยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ท่านเป็นพระที่ได้รับการนับถือศรัทธาจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเป็นอย่าง มาก ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างมิได้เกิดขึ้นจากการเป็นผู้ให้เพียงอย่างเดียว หากแต่มาจากการวางตัวที่เป็นกันเอง ง่ายๆ ติดดิน สบายๆ เพราะนั่นมันจะทำให้เข้าถึงชาวบ้านได้ง่ายกว่า ท่านว่าอย่างนั้น ติดตามเรื่องราวของพระนักคิดนักพัฒนา ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการมีแบบฉบับและความคิดเฉพาะตัวไม่เหมือนใครและไม่มี ใครกล้าเหมือน..