ธรรมะบนรถกะป๊อแดง

Post Reply
Nadda
Posts: 258
Joined: Tue 05 May 2009 8:20 pm

ธรรมะบนรถกะป๊อแดง

Post by Nadda »

Chapter I

นั่งรถกะป๊อแดงไปส่งไปรษณีย์ใกล้ๆบ้านวันนี้ยอมส่งเอกชน ขากลับเจอน้ำสาดเข้ามารถกะป๊ออีก มองตามไปโอ้วน้ำขังดำปี๋เลย ทั้งๆที่รถกะป๊อคันนี้ยกสูงกว่าปกติแล้ว คุณลุงที่นั่งท้ายรถมีโอกาสรับน้ำมากกว่าเพื่อน แต่กลับหัวเราะอารมณ์ดี เปลี่ยนบรรยากาศมาคุให้กลายเป็นครื้นเครง ป้าที่อยู่ข้างๆก็ชวนคุยกระหนุงกระหนิง (ไม่รู้จักกัน) รองเท้าผ้าใบของลุงเปียกชุ่ม แต่ทำอะไรใจคุณลุงไม่ได้เลย น่าตื่นเต้นมาก ยิ่งกว่าเจอ ณเดช เชื่อว่าจิตใจระดับนี้คงต่อภาวนาง่ายมากพื้นฐานแต่ละคนไม่เท่ากันจริงๆ เหมือนเราอุตส่าห์เข้าวัด ตั้งใจมากแต่โมโหง่ายนิดเดียว อารมณ์กวัดแกว่งขึ้นลง

ตอนน้ำสาดเข้ามาจับได้ถึงอารมณ์ตุๆ มันขึ้นมาแบบไม่ค่อยพอใจ แต่พอเจอเสียงหัวเราะลุง เลยมีสติคิดได้ ก็นั่งคิดใคร่ครวญเรื่องลุงมาเรื่อยๆ จับอารมณ์ลุงตอนเอ้ยอันแรกไม่ทันว่าลุงเอ้ยแบบมีอารมณ์ติดมาแบบไหน แต่ลุงสามารถเปลี่ยนเป็นดีได้ในวินาทีเดียว Salute ให้ลุงหนึ่งที!

Chapter II


รถสาธารณะเป็นสถานที่โปรดอันดับหนึ่งของเรา เพราะมักจะได้เจออะไรสนุกๆอยู่เสมอ วันนี้นั่งกะป๊อแดงขากลับ สังเกตเห็นผู้หญิงนุ่งกระโปรงสั้นมาก พอดีรถคันนี้ยกสูง เบาะที่นั่งก็สูง เลยยิ่งรั้งกระโปรงให้สั้นมากขึ้นไปอีก เธอเอาแต่นั่งกดมือถือเลยลืมตัว ปล่อยขาตามสบายและไม่มีมือเหลือสำหรับปิดกระโปรง ตั้งหน้าตั้งตากดโทรศัพท์ตลอด จนไม่เห็นว่ามีหนุ่มน้อยและหนุ่มชรามองอยู่นานแค่ไหน (ดีนะที่ผิวขาวสวยไม่เป็นมลพิษแก่สายตา)

เคยมีคนเล่าว่า เขาชอบดูหนังห่วยๆ เราก็แปลกใจว่าจะทนดูไปทำไม เขียนบทมาไม่สมเหตุสมผล แสดงไม่ดี พระเอกนางเอกไม่สวยไม่หล่อ เขาบอกยิ่งชอบเพราะเหมือนโลกความจริง และได้สังเกตความคิดของตัวเอง ตอนนั้นแหละถ้าเรามีสติพอจะเห็นว่าตัวเองเป็นยังไง

เราสังเกตสายตา อากัปกริยาของคนทั้งหมด เห็นความคิดตัวเองที่เกิดขึ้นมากมาย ชอบวิพากษ์วิจารณ์ นู่นนี่นั่นโน่น รู้สึกชอบไม่ชอบ เปรียบเทียบ คิดเดา ที่จริงแล้วเขาอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้ คนชราฝั่งตรงข้ามอาจมองว่าเป็นลูกหลานตักเตือนว่าไม่น่านุ่งสั้นด้วยสายตาหรือเปล่า แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ดูคนอื่นแต่อยู่ที่ดูความคิด ความรู้สึกของตัวเอง จะว่าไปก็สนุกดีนะมันเหมือนมองซ้อนหลายๆชั้น

สักแป๊บนึงมีคุณป้าโบกจะขึ้นรถกะป๊อ รถหยุดรับ แต่ป้าถือถุงท่าทางหนักก้าวขึ้นมาไม่ได้ ทันใดนั้นเราก็เห็นตัวเองปราดเข้าไปช่วยยกถุงก่อนความคิด ป้าแกเลยมีแรงโหนเสาขึ้นมา เพราะบันไดมันสูงคนแข้งขาไม่ดีเลยก้าวไม่ไหว เรานั่งอยู่กลางๆรถ พอเห็นป้าขึ้นไม่ได้ปุ๊บเลยแล่นออกไป

แต่ก่อนเราเคยนึกเสียใจเวลาพูดแก้ตัวโดยอัตโนมัติ เคยไหมที่บางทีก็พูดโกหกทั้งๆที่มันไม่จำเป็น เพราะติดนิสัย หรือรีบแก้ตัวโดยทันทีทันใด คล้ายๆกับเป็นสันดานที่ติดตัวมาหลายภพหลายชาติจนผนึกแน่นเป็นเนื้อเดียวกับเราไปแล้ว วันนี้มีพัฒนาการออกไปช่วยคุณป้าโดยอัตโนมัติแล้วนึกพอใจเพราะเหมือนได้เห็นสันดานใหม่
Post Reply