" นิทานปลาดาว " โดยพระอาจารย์ชยสาโร 1 ม.ค. 60

Post Reply
Nadda
Posts: 258
Joined: Tue 05 May 2009 8:20 pm

" นิทานปลาดาว " โดยพระอาจารย์ชยสาโร 1 ม.ค. 60

Post by Nadda »

ความดีแม้แต่เล็กนิดเดียวก็มีความหมายมาก นิทานเรื่องนี้เคยเล่าหลายครั้งเพราะชอบมาก เกี่ยวกับผู้ที่ออกวิ่งในตอนเช้า ชายทะเล มองเห็นปลาดาวขึ้นมาเกยบนหาดเป็นจำนวนพันจำนวนหมื่น กำลังตายอยู่ ชายคนนั้นเห็นก็สงสารเดินไปที่หาดแล้วก็หยิบปลาดาวโยนไปในทะเลช่วยชีวิตมัน

เพื่อนบังเอิญผ่านมาเห็น ตะโกนถามว่าทำอะไรอยู่ ชายผู้นั้นตอบว่ากำลังช่วยชีวิตปลาดาว เพื่อนโต้กลับทันทีว่า ช่วยแบบนี้จะเกิดประโยชน์อะไร ปลาดาวมันเกยขึ้นมาเป็นหมื่นเป็นแสน ช่วยแค่นี้มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาได้ คนแค่คนเดียวทำไปก็เสียเวลาเปล่า ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วแทบไม่ถึง 0.0001%

แต่ชายคนดังกล่าวก็หยิบปลาดาวตัวหนึ่งโยนลงไปในทะเล แล้วพูดขึ้นมาว่า "นี่ไงล่ะ เกิดประโยชน์กับปลาตัวนี้" หยิบแล้วโยนทีละตัวพร้อมพูดว่า เกิดประโยชน์กับตัวนี้ ตัวนี้ แล้วก็ตัวนั้น

คือถ้าเรามองทั้งหมด เราก็อาจท้อแท้ใจ ว่ามันไม่มีความหมายเลย แค่เพียง 1 ในแสน หรือ 1 ในหมื่น แต่ถ้าเราคิดว่าสำหรับตัวนั้นเนี่ยะแหละเกิดประโยชน์มากที่สุด เพราะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับสัตว์ตัวนั้นระหว่างตายหรืออยู่

ทีนี้การทำความดีของเราก็เหมือนกัน อย่าไปมองภาพรวมว่าทำไปมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะเล็กนิดเดียว แต่ให้มองว่ามันงดงาม มันเป็นสิ่งที่ดี แล้วเป็นสิ่งที่สมควรจะทำ ผลจะเกิดอย่างไรไม่ทราบ เรารู้แต่ว่าในขณะนั้น ผลคือความดีเกิดขึ้น ผลคือประโยชน์ในชุดนั้น อันนี้ก็ทำให้เรามีความสุขได้ง่ายๆ ความสุขและความเจริญ

เรามีโอกาสทำความดีที่ไหน แม้แต่ว่ามันเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว พยายามทำ มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีความสุขได้ง่าย และเมื่อเห็นว่าคนอื่นเขาทำความดี ไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม เรื่องเล็กนิดเดียว ให้รู้จัก "อนุโมทนา" คำว่าอนุโมทนานี้ เราก็ใช้กันทั่วไป แต่จริงๆแล้ว อนุโมทนา เป็นชื่อของความรู้สึก มันไม่ใช่แค่คำสุภาพ หรือพูดตามธรรมเนียม อนุโมทนาคือความรู้สึกที่เราชื่นใจกับการทำความดีของคน เราซาบซึ้งในความดีที่มันปรากฏอยู่ในขณะนั้น เวลานั้น

เราสามารถฝึกเจริญสติด้วยการอนุโมทนา โดยการมองรอบตัว ที่ไหนที่เห็นคนทำความดีเราก็อนุโมทนา อย่างเช่น เห็นรถให้ทางกัน เราก็อนุโมทนาเด้อ อย่างนี้ เรื่องเล็กเรื่องน้อยพวกนี้ในแต่ละวันมันมีมากทีเดียว มันธรรมดาซะจนเรามองไม่เห็น เพราะไม่คิดจะดูจะรับรู้มัน ให้เราลืมหูลืมตารับรู้รับทราบในความดีที่อยู่รอบข้าง และให้เราพยายามทำความดีทำด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน เอาใจเขาใส่ใจเรา เป็นการพัฒนาจิตใจของเราไปด้วยและเสริมสร้างสังคม อย่างนี้ปีใหม่ของเราก็มีสิทธิ์จะได้ดีกว่าปีก่อนได้
Post Reply