ส่วนลดประวัติดี
ถ้าในปีนั้นไม่มีการเคลมฝ่ายผิดเลย หรือไม่เคลมรอยขูดขีดใดๆ จะได้ส่วนลดประวัติดีมากขึ้นเรื่อยๆในปีต่อๆไป โดยเริ่มจาก 20% จนถึง 50%
แต่ถ้ามีการเคลมใดๆเกิดขึ้น ส่วนลดประวัติดีก็จะถูกปรับลดลง 10% หรือถ้ามีการเคลมประกันมูลค่าสูงๆก็อาจจะถูกยกเลิกได้
ส่วนลดประวัติดีเป็นข้อมูลกลาง เป็นข้อมูลที่แชร์กันทุกบริษัทประกันภัย จึงสามารถกล่าวอ้างได้เวลาย้ายบริษัทเพื่อขอส่วนลด
เทคนิคการเคลมประกันชั้น 1
Re: เทคนิคการเคลมประกันชั้น 1
การระบุชื่อคนขับ 2 คน
เราสามารถลดเบี้ยประกันชั้น 1 ลงได้ด้วยการระบุชื่อคนขับได้จำนวน 2 คน ยิ่งคนขับรถมีอายุน้อยก็จะมีความเสี่ยง เบี้ยประกันก็อาจจะลดได้ไม่มาก
เราสามารถลดเบี้ยประกันชั้น 1 ลงได้ด้วยการระบุชื่อคนขับได้จำนวน 2 คน ยิ่งคนขับรถมีอายุน้อยก็จะมีความเสี่ยง เบี้ยประกันก็อาจจะลดได้ไม่มาก
Re: เทคนิคการเคลมประกันชั้น 1
Deduct
การระบุค่าความเสียหายส่วนแรก จะทำให้เบี้ยประกันถูกลงได้เยอะ เช่น ถ้าเราระบุไว้ 3000 บาท เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วเราเป็นฝ่ายผิด เราจะต้องรับผิดชอบจ่ายเองตามความเสียหายโดยจะไม่เกิน 3000 บาท ถ้าเกินจากนั้นประกันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง
ค่านี้หลายท่านไม่ทราบเวลาซื้อกรมธรรม์ ดูแต่ค่าเบี้ยที่ถูกกว่ารายอื่น เมื่อเกิดอุบัติเหตุเป็นฝ่ายผิดแล้วต้องโดนจ่ายค่า deduct จึงได้โวยวายกันเยอะมาก ถ้าชนไม่มากหลายท่านจะใช้วิธีซ่อมเอง ไม่ต้องแจ้งประกัน
การระบุค่าความเสียหายส่วนแรก จะทำให้เบี้ยประกันถูกลงได้เยอะ เช่น ถ้าเราระบุไว้ 3000 บาท เวลาเกิดอุบัติเหตุแล้วเราเป็นฝ่ายผิด เราจะต้องรับผิดชอบจ่ายเองตามความเสียหายโดยจะไม่เกิน 3000 บาท ถ้าเกินจากนั้นประกันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง
ค่านี้หลายท่านไม่ทราบเวลาซื้อกรมธรรม์ ดูแต่ค่าเบี้ยที่ถูกกว่ารายอื่น เมื่อเกิดอุบัติเหตุเป็นฝ่ายผิดแล้วต้องโดนจ่ายค่า deduct จึงได้โวยวายกันเยอะมาก ถ้าชนไม่มากหลายท่านจะใช้วิธีซ่อมเอง ไม่ต้องแจ้งประกัน
Re: เทคนิคการเคลมประกันชั้น 1
กรมธรรม์จะมีความคุ้มครอง 7 ส่วนดังนี้
1.ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก (เกินจาก พ.ร.บ.)
2.ความเสียหายต่อทรัพย์สิน
3.ความเสียหายต่อรถยนต์
4.รถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้
5.อุบัติเหตุส่วนบุคคล
6.ค่ารักษาพยาบาล
7.วงเงินประกันตัวผู้ขับขี่คดีอาญา
ท่านจะต้องตรวจสอบและเปรียบเทียบกันในแต่ละบริษัท
1.ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก (เกินจาก พ.ร.บ.)
2.ความเสียหายต่อทรัพย์สิน
3.ความเสียหายต่อรถยนต์
4.รถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้
5.อุบัติเหตุส่วนบุคคล
6.ค่ารักษาพยาบาล
7.วงเงินประกันตัวผู้ขับขี่คดีอาญา
ท่านจะต้องตรวจสอบและเปรียบเทียบกันในแต่ละบริษัท
Re: เทคนิคการเคลมประกันชั้น 1
การเคลมประกันรอบคัน
ถ้ารวบรวมความเสียหายได้หลายตำแหน่งแล้ว ควรจะเคลมตอนต้นของรอบระยะเวลาคุ้มครองในแต่ละรอบปี ไม่ควรเคลมในตอนใกล้หมดประกัน เพราะจะทำให้เสียประวัติดี และในปีถัดไปเราอาจจะต้องมีการเคลมอีก เราก็จะเสียประวัติอีก
รอยขูดขีด กระจกเป็นรอยลึก ไฟท้ายเป็นรอยลึก เราสามารถเคลมได้ทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องมีคู่กรณี เช่น โดนต้นไม้ ถอยโดนเสา
ชิ้นส่วนที่ต้องเปลี่ยนทั้งอัน เมื่อแจ้งเคลมแล้วท่านอาจจะดองเก็บไว้ก่อนก็ได้ เผื่อจะเกิดรอยขูดขีดซ้ำเดิมอีกก็ได้
ความเสียหายภายในรถ จะไม่สามารถเคลมได้ ยกเว้นจะเกิดจากอุบัติเหตุที่สามารถพิสูจน์ได้ชัดๆ
ถ้ารวบรวมความเสียหายได้หลายตำแหน่งแล้ว ควรจะเคลมตอนต้นของรอบระยะเวลาคุ้มครองในแต่ละรอบปี ไม่ควรเคลมในตอนใกล้หมดประกัน เพราะจะทำให้เสียประวัติดี และในปีถัดไปเราอาจจะต้องมีการเคลมอีก เราก็จะเสียประวัติอีก
รอยขูดขีด กระจกเป็นรอยลึก ไฟท้ายเป็นรอยลึก เราสามารถเคลมได้ทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องมีคู่กรณี เช่น โดนต้นไม้ ถอยโดนเสา
ชิ้นส่วนที่ต้องเปลี่ยนทั้งอัน เมื่อแจ้งเคลมแล้วท่านอาจจะดองเก็บไว้ก่อนก็ได้ เผื่อจะเกิดรอยขูดขีดซ้ำเดิมอีกก็ได้
ความเสียหายภายในรถ จะไม่สามารถเคลมได้ ยกเว้นจะเกิดจากอุบัติเหตุที่สามารถพิสูจน์ได้ชัดๆ
Re: เทคนิคการเคลมประกันชั้น 1
ขั้นตอนการเคลมประกันรอบคัน
1.แจ้งศูนย์ประกันให้มาตรวจและออกใบเคลมที่บ้าน
2.ใบเคลมจะมีอายุ 1 ปี นับจากวันที่ทำเอกสาร ถึงแม้ว่าเราจะไม่ต่อประกันแล้ว หรือย้ายไปบริษัทใหม่แล้วก็ตาม อย่างไรก็ดีถ้าเกิดอุบัติเหตุที่ชิ้นส่วนเดิม อาจจะเกิดปัญหาโต้แย้งได้ ทางที่ดีควรจะรีบไปซ่อมหลังจากที่ตัดสินใจย้ายบริษัทประกันแล้ว
3.การซ่อมกระจกทุกบานในรถ จะออกใบเคลมแยกต่างหาก นอกจากนี้ท่านยังสามารถนำรถไปแจ้งเคลมที่ร้านกระจกได้เลย โดยไม่ต้องแจ้งศูนย์ประกัน เพราะทางร้านจะทำเรื่องออกใบเคลมให้ได้ด้วย มีระบบออนไลน์กับทุกบริษัทประกันภัย
4.การซ่อมที่อู่หรือร้านกระจก เขาจะนัดวันให้มาซ่อมหรือต้องจองคิว ทั้งนี้จะต้องใช้เวลาการสั่งชิ้นส่วนอะไหล่ที่หาได้ยาก
5.ร้านกระจกจะมีบริการนอกสถานที่ นัดวันแล้วจะมาติดตั้งให้ถึงบ้านโดยไม่คิดค่าบริการเพิ่มใดๆ โดยจะติดฟิล์ม,ไล่ฝ้า และเสาอากาศวิทยุแบบเดิมให้ด้วย ดังนั้นเราควรเก็บใบรับประกันฟิล์มของเดิมไว้ด้วยเพื่อใช้ในการระบุชนิดของฟิล์ม ข้อเสียของการติดตั้งนอกสถานที่คือ การติดฟิล์มจะทำได้ไม่ดี เพราะทางร้านจะมีห้องติดฟิล์มโดยเฉพาะเพื่อป้องกันฝุ่น กระจกหน้าเมื่อติดแล้วไม่ควรได้รับการสั่นสะเทือนเพราะต้องรอให้กาวแห้ง ควรหาห้างสรรพสินค้าแล้วจอดทิ้งไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
6.ร้านกระจกชื่อดังได้แก่ Thai Auto Glass
7.เราสามารถแจ้งยกเลิกใบเคลมได้ แต่จะต้องเว้นระยะไปสัก 3 เดือนจึงจะเคลมใหม่ได้ เพราะบางท่านกลัวเสียประวัติดี จะรอให้หมดรอบกรมธรรม์ก่อนเพื่อเอาส่วนลดประวัติดี เปลี่ยนใจไม่ซ่อม หรือไปซ่อมเอง
8.
1.แจ้งศูนย์ประกันให้มาตรวจและออกใบเคลมที่บ้าน
2.ใบเคลมจะมีอายุ 1 ปี นับจากวันที่ทำเอกสาร ถึงแม้ว่าเราจะไม่ต่อประกันแล้ว หรือย้ายไปบริษัทใหม่แล้วก็ตาม อย่างไรก็ดีถ้าเกิดอุบัติเหตุที่ชิ้นส่วนเดิม อาจจะเกิดปัญหาโต้แย้งได้ ทางที่ดีควรจะรีบไปซ่อมหลังจากที่ตัดสินใจย้ายบริษัทประกันแล้ว
3.การซ่อมกระจกทุกบานในรถ จะออกใบเคลมแยกต่างหาก นอกจากนี้ท่านยังสามารถนำรถไปแจ้งเคลมที่ร้านกระจกได้เลย โดยไม่ต้องแจ้งศูนย์ประกัน เพราะทางร้านจะทำเรื่องออกใบเคลมให้ได้ด้วย มีระบบออนไลน์กับทุกบริษัทประกันภัย
4.การซ่อมที่อู่หรือร้านกระจก เขาจะนัดวันให้มาซ่อมหรือต้องจองคิว ทั้งนี้จะต้องใช้เวลาการสั่งชิ้นส่วนอะไหล่ที่หาได้ยาก
5.ร้านกระจกจะมีบริการนอกสถานที่ นัดวันแล้วจะมาติดตั้งให้ถึงบ้านโดยไม่คิดค่าบริการเพิ่มใดๆ โดยจะติดฟิล์ม,ไล่ฝ้า และเสาอากาศวิทยุแบบเดิมให้ด้วย ดังนั้นเราควรเก็บใบรับประกันฟิล์มของเดิมไว้ด้วยเพื่อใช้ในการระบุชนิดของฟิล์ม ข้อเสียของการติดตั้งนอกสถานที่คือ การติดฟิล์มจะทำได้ไม่ดี เพราะทางร้านจะมีห้องติดฟิล์มโดยเฉพาะเพื่อป้องกันฝุ่น กระจกหน้าเมื่อติดแล้วไม่ควรได้รับการสั่นสะเทือนเพราะต้องรอให้กาวแห้ง ควรหาห้างสรรพสินค้าแล้วจอดทิ้งไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
6.ร้านกระจกชื่อดังได้แก่ Thai Auto Glass
7.เราสามารถแจ้งยกเลิกใบเคลมได้ แต่จะต้องเว้นระยะไปสัก 3 เดือนจึงจะเคลมใหม่ได้ เพราะบางท่านกลัวเสียประวัติดี จะรอให้หมดรอบกรมธรรม์ก่อนเพื่อเอาส่วนลดประวัติดี เปลี่ยนใจไม่ซ่อม หรือไปซ่อมเอง
8.