ประสบการณ์การเคลมประกันภัยชั้น1 และประสบการณ์นรกกับการเคลมกระจกหน้า+กระจกมุมขวา

Post Reply
tong
Site Admin
Posts: 2386
Joined: Fri 01 May 2009 8:55 pm

ประสบการณ์การเคลมประกันภัยชั้น1 และประสบการณ์นรกกับการเคลมกระจกหน้า+กระจกมุมขวา

Post by tong »

เข้าเรื่องกันเลยนะ กระจกหน้าโดนหิน กระจกมุมขวาโดนหิน แร๊กหลังคาหลุดไปบางชิ้นส่วน กันชนเป็นรอย ก็เลยลองโทรเข้าศูนย์ประกันเพื่อปรึกษา และได้ส่งพนักงานมาดูที่บ้านอย่างรวดเร็ว ถ่ายรูปและออกเอกสารใบเคลมให้ พนักงานบริษัทประกันที่เราใช้นี้มีมารยาทดีมาก เคยเรียกมาเคลม 3 ครั้งก็เรียบร้อยทั้ง 3 คน

ใบเคลมนี้มีอายุ 2 ปี สามารถนำรถเข้าซ่อมที่อู่ไหนก็ได้ที่อยู่ในเครือ ในกรณีที่ท่านจะเปลี่ยนบริษัทประกัน ควรจะรีบเข้าอู่ซ่อมก่อนที่จะเปลี่ยนประกัน เพราะถ้าท่านเปลี่ยนบริษัทประกันแล้ว จึงค่อยนำรถไปซ่อมอาจจะมีปัญหาได้ เช่น เคลมรอยบุบกันชน ของเดิมมี 4 รอย ถ้าไปชนมาเพิ่มเป็น 6 รอย ประกันเจ้าเก่าอาจจะไม่อนุมัติซ่อมให้ท่านก็เป็นได้

ถ้าปีไหนท่านไม่มีการเคลมฝ่ายผิดเลย (รวมทั้งเฉื่ยวชนต้นไม้ เสา) ก็จะได้ส่วนลดเพิ่มปีละ 10% สูงสุดไม่เกิน 50% ส่วนลดนี้จะเรียกว่า ส่วนลดประวัติดี เป็นฐานข้อมูลกลาง สามารถโอนใช้กับบริษัทประกันเจ้าอื่นได้ด้วย แต่ถ้าปีไหนมีการเคลม ส่วนลดประวัติดีก็จะลดลงปีละ 10% ด้วยเช่นกัน

การที่ท่านจะเรียกเคลมในปีนี้หรือปีหน้าดี ก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน เช่น ปีนี้รถเป็นรอยนิดหน่อย ถ้าเคลมเลยแล้วปีหน้าต้องเคลมอีกก็จะต้องเคลม 2 รอบ ก็เสียส่วนลดไปเยอะ แต่ถ้าปีหน้าไม่มีอุบัติเหตุเลยก็ต้องเสียเวลารอเคลมอีก 1 ปี ทั้งนี้ถ้าคิดว่าในปีนี้ต้องเข้าอู่แน่ๆก็ควรเรียกเคลมตอนต้นๆของรอบประกันไปเลย

อีกวิธีหนึ่งในการลดเบี้ยประกันคือการระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ สามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ไม่เกิน 2 คน โดยจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยตามอายุผู้ขับขี่ที่อายุน้อยที่สุดเป็นหลัก ดังนี้
- ช่วงอายุ 18-24 ปี ได้รับส่วนลด 5%
- ช่วงอายุ 25-35 ปี ได้รับส่วนลด 10%
- ช่วงอายุ 36-50 ปี ได้รับส่วนลด 15%
- ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ได้รับส่วนลด 20%

การกำหนดความเสียหายส่วนแรก (Deductible) เป็นการเลือกรับความเสี่ยงภัยไว้เองบางส่วน โดยแลกกับส่วนลด Deductible ซึ่งทั่วไปไม่เกิน 5,000 บาท
วิธีนี้จะทำให้สามารถประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยได้มากพอสมควร เช่น หากเราซื้อค่าเสียหายส่วนแรกเพิ่มเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท เราก็จะได้ลดเบี้ยประกันจากยอดเดิม 2,000 บาท (เงื่อนไขเเต่ละบริษัทอาจเเตกต่างกัน แต่หลักการเดียวกัน) ดังนั้นหากมีอุบัติเหตุและคุณเป็นฝ่ายผิดคุณก็ต้องเสียเงินจำนวน 2,000 บาท/ครั้ง เพราะว่าเงินตรงนี้เป็นการร่วมรับผิดกับบริษัทประกันภัย
tong
Site Admin
Posts: 2386
Joined: Fri 01 May 2009 8:55 pm

Re: ประสบการณ์การเคลมประกันภัยชั้น1 และประสบการณ์นรกกับการเคลมกระจกหน้า+กระจกมุมขวา

Post by tong »

เวลาผ่านไป 1 ปีกว่า ฟิล์ม Lamina หมดอายุ และเข้าหน้าฝน ก็ได้ฤกษ์เคลมเปลี่ยนกระจกหน้า+กระจกมุมขวาสักที เพราะเวลาขับกลางคืนมองไม่ค่อยเห็น ได้ค้นคว้าข้อมูลมามากพอสมควร อยากลองใช้ฟิล์ม 3M บ้างว่าจะดีไหม ประกอบกับเห็นมี FaceBook ไว้รองรับเรื่องร้องเรียนด้วย อ่าน FaceBook ดูแล้วก็เห็นว่าบริการได้อย่างดี

ได้โทรถามศูนย์ 3M ท่านก็แนะนำว่า ร้านที่เราเลือกนั้นเป็นรายเล็ก พร้อมกับแนะนำให้ไปร้านที่ยอดขายมากที่สุด แถมยังอยู่ใกล้กับบ้านเราอีกด้วย แต่ว่าร้านนั้นไม่ได้รับเคลมกระจกด้วยก็เลยอดใช้บริการ ร้านที่รับเคลมกระจกก็มีอยู่ 2 จ้าวใหญ่ๆ จึงจำเป็นต้องไปเคลมที่ร้านกระจกและติดฟิล์มรอบคันไปด้วย

ฟิล์ม 3M รอบคัน 6,500 บาท (ราคานี้โทรเช็คหลายร้านแล้ว ให้ราคาตรงกัน แสดงว่าเป็นราคามาตราฐาน คงทำไว้เป็นตารางเลย)
ทางร้านบอกว่า ถ้าใช้ซิลิโคนอย่างดี แห้งเร็วไม่เหม็น คิดเพิ่ม 400 บาท
ฟิล์มกระจกหน้า ไม่มีบัตรรับประกัน หักให้ 500 บาท
กระจกมุมขวา ไม่มีบัตรรับประกัน หักให้ 200 บาท

กระจกหน้าเป็นกระจก OEM ซึ่งก็ไม่มีปัญหาใดๆ แต่ใช้ซิลิโคนมากไป ทะลักเล็ด เห็นจากด้านใน (ดูภาพประกอบ)

กระจกมุมขวา พอกลับไปที่บ้านแล้วก็สังเกตเห็น มันเป็นคนละรุ่นกันนิ ขอบดำมันกว้างกว่า ลายเส้นวิทยุก็ไม่เหมือนกัน จุดต่อสายก็ไม่ตรงกัน คนละมุมเลย ไม่รู้ว่าช่างต่อสายยังไง เครียดมาก พลาสติกภายในรถก็เหยินมาก คงจะใช้ไขควงงัด กระจกมุมขวาใช้ลวดแซะออกแล้วทาซิลิโคนติดบานใหม่เลย

กระจกบานหลังติดฟิล์มผิดเบอร์มาให้ เห็นได้ชัดว่าเข้มกว่ามาก เวลามองกระจกส่องหลังแล้วน่าเกลียดมาก ทำให้เสียเวลาตัดสินใจเพราะแสงสีไม่เท่ากัน ดังนั้นท่านควรติดฟิล์มให้สีเหมือนกันทุกบาน รวมทั้งบานหน้าด้วย

ทำอย่างไรดีละทีนี้ เป็นคนไม่ชอบโวยด้วย

1. ติดต่อบริษัทประกัน ว่าทำอย่างไรดี เคลมที่อื่นใหม่ได้เปล่า

เจ้าหน้าที่ก็โอนสายให้หัวหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ท่านก็ดีมาก เป็นห่วงเป็นใยมาก แนะนำให้รีบจัดการ อย่าปล่อยไว้นาน ไปหาร้านนี้มาจากไหน (เราก็คิดในใจ โอ๊วขนาดร้านนี้เป็นร้านใหญ่แล้วนะ หรือว่าควรจะไปใช้ร้านเล็กๆที่ซื่อตรงจะดีกว่าเนี่ย) และเดี๊ยวจะให้ลูกน้องโทรกลับมา

2. ติดต่อ FaceBook 3M ว่าทำอย่างไรดี เคลมที่อื่นได้เปล่า

เจ้าหน้าที่ก็ขอข้อมูล ร้านที่ติดตั้งและบัตรรับประกัน

สองวันต่อมาเป็นวันจันทร์ เวลา 9 โมงพอดี ประกันโทรมาคุยด้วย แล้วแนะนำว่าให้กลับไปที่ร้าน แจ้งปัญหาให้เขาทราบ จะส่งพนักงานไปร่วมฟังด้วยเพราะเขาก็ไม่ไว้ใจร้านพวกนี้ เราก็เลยลังเลอยู่ บอกว่าขอเวลาคิดก่อน พอวางสายไป 3M ก็โทรมาต่อเนื่องเลย เจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องกลับไปเคลมที่ร้านเดิมเท่านั้น

สรุปว่าคงต้องกลับไปที่ร้านเดิมแน่แท้ ก็เลยโทรแจ้งทางร้าน บอกถึงปัญหาทั้ง 2 เรื่อง (มีเสียงแว่วมาไกลๆทำนองไม่พอใจ) และนัดเวลาเข้าไป จากนั้นเราจึงได้แจ้งประกันให้ช่วยเข้าไปฟังด้วย
tong
Site Admin
Posts: 2386
Joined: Fri 01 May 2009 8:55 pm

Re: ประสบการณ์การเคลมประกันภัยชั้น1 และประสบการณ์นรกกับการเคลมกระจกหน้า+กระจกมุมขวา

Post by tong »

ทีนี้พอถึงเวลา ประกันมาสายนิดหน่อย ประมาณ 5 นาที แต่เราได้เข้าไปก่อนเพราะไม่รู้ว่าประกันมาถึงแล้วหรือยัง จะแกล้งไปสายก็ไม่ใช่วิสัย จอดรถปุ๊ปก็แจ้งปัญหา 2 เรื่องด้วยกัน เราบอกว่า "โทรเช็คโตโยต้าแล้ว เขาบอกว่ากระจกมีรุ่นเดียว ไม่รู้จะทำยังไงดี ให้ช่วยเช็คให้หน่อยว่าจริงหรือเปล่า" ทางร้านก็บอกว่า "ถ้าเช็คมาแล้วก็คงจะมีรุ่นเดียวแหละ" เราก็เลยยืนยันต่อว่าลองเช็คให้หน่อยนะ แล้วเดินเข้าไปในห้องรับรองลูกค้าก่อนเพราะไม่รู้จะทำยังไง

พอดีประกันมาถึง ก็เลยพาไปดูกระจกว่าน่าจะติดผิดมาให้ และเล่าให้ประกันฟังว่า "ให้เขาลองเช็คดูใหม่ว่ามีกี่รุ่นกันแน่" แล้วเราก็เดินกลับมาที่ห้องรับรองลูกค้าก่อน

ระหว่างนั้นทางร้านก็คุยกับประกันข้างนอก แล้วก็พากันเดินเข้ามาในห้องรับรองลูกค้า บอกว่า "โทรเช็คโตโยต้าสาขาใกล้ๆนี้ก็บอกว่ามีรุ่นเดียว"

มันเป็นช่วงสูญญากาศอยู่นาน ประกันก็เลยบอกว่า "ไหนขอดูรูปหน่อย" เพราะก่อนเปลี่ยนกับหลังเปลี่ยนต้องถ่ายรูปไว้ ทางร้านก็หน้าถอดสี (เราก็ดีใจมาก ลืมนึกถึงเรื่องรูปไปเลย) ทางร้านบอกว่า "ดูไปก็ไม่รู้เพราะกระจกแตกละเอียดมา" เราก็บอกว่า "ไม่ได้แตกเลย" ทางร้านก็แกล้งทำเป็นประหลาดใจ "ไม่ได้แตกหรอ" เลยต้องไปเอารูปมาให้ประกันดู

พอเดินมาก็ยอมรับว่า มันเป็นคนละรุ่นกัน เห็นกันชัดๆ พร้อมเอารูปให้ดู ก็เลยมีข้อสรุปใหม่ว่า ทางโตโยต้าอาจจะผลิตมาเหลือรุ่นเดียว ให้เอารถเข้าไปที่ศูนย์ไปถามให้ชัดๆจะได้สั่ง part มาได้ถูกต้อง ประกันก็แย้งว่าไม่ใช่หน้าที่เรานิน่า ทำใมเราต้องไปถามเอง แต่เราก็อาสาจะขับพาไปให้เพราะอยู่ใกล้ๆนิเอง จะได้จบเรื่องได้ข้อสรุปสักที

พอไปถึงที่ศูนย์ พนักงานโตโยต้าบอกว่ามีรุ่นเดียว เราก็ตกใจเป็นไปได้อย่างไง แต่ประกันมีไหวพริบดีกว่า เอารูปทั้ง 2 แบบให้ดู พนักงานโตโยต้าก็เลยไม่แน่ใจ บอกว่าให้เอาเลขตัวถังมาเช็คจะชัวร์ที่สุด พอเช็คแล้วปรากฎว่ารถเราต้องใช้อีก part หนึ่งจริงๆ มันเป็นคนละรุ่น ก็เลยจด part no กลับมา

พอกลับมาถึงร้าน ยังไม่ได้พูดอะไรเลย ทางร้านส่งอีกคนนึงมาโวยวายใส่ประกัน ทำนองว่าให้ไปติดเองและให้ถอดกระจกนี้ออก ประกันก็เป็นห่วงว่า ถ้าถอดแล้วน้ำเข้ารถ รถเสียใครจะรับผิดชอบ ทางร้านก็แย้งว่า ถ้าถอดกระจกส่งกลับมาภายหลังแล้วเป็นรอยใครจะรับผิดชอบ เราเห็นท่าไม่ดีแล้ว ก็เลยบอกประกันว่า ไม่เป็นไร เขาไม่พอใจแล้ว ประกันก็เข้าใจเรา ถ้าเคลมที่ร้านนี้ต่อไปก็อาจจะส่งผลร้าย ประกันก็เลยบอกทางร้านว่า "ก็คงต้องถอดประกันร้านนี้ออก" ทางร้านก็ไม่สนใจอะไร

สำหรับเรื่องฟิล์ม 3M บานหลังที่ติดผิด ทางร้านก็ให้รอเพื่อติดใหม่ โดยติดกันที่หน้าร้านเลย ไม่ได้ติดในห้องกันฝุ่น พร้อมกับใช้ลวดแซะกระจกมุมขวาออก ส่วนตัวสันนิฐานว่า วันนั้นฟิล์มคงจะหมดก็เลยเอาเบอร์อื่นมาติดให้แทนก็เลยรู้ความผิดของตัวเองหรือไม่ก็ทาง 3M ได้ประสานงานมาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เช้า

ประกันก็แสนดี แจ้งหัวหน้าแล้ว บอกว่าให้เอารถไปทำที่ศูนย์โตโยต้าเลยและไปติดฟิล์มที่ร้านไหนก็ได้ เอาบิลมาจะเบิกให้ทั้งหมด
กระจก 1,090 ยังไม่รวมแวท
ค่าแรง 450 บาท
ฟิล์ม 200 บาท

ประกันบอกว่า เดิมร้านนี้เป็นอีกชื่อ ได้เปลี่ยนชื่อร้านใหม่ แนะนำให้ไปติดกับอีกจ้าวดีกว่า เป็นโรงงานผลิตเองด้วย
tong
Site Admin
Posts: 2386
Joined: Fri 01 May 2009 8:55 pm

Re: ประสบการณ์การเคลมประกันภัยชั้น1 และประสบการณ์นรกกับการเคลมกระจกหน้า+กระจกมุมขวา

Post by tong »

ขากลับ ฝนจะตก ท่าไม่ดี เป็นดังที่พี่ประกันเป็นห่วงจริงๆ แวะ 7-11 ซื้อเทปมาแปะกันน้ำเพิ่ม

วันต่อมา โทรนัด Toyota Body เรื่องเปลี่ยนกระจก จะสั่งอะไหล่ ก็โอนไปโอนมา 3 รอบ รอตั้งนาน ไม่มีใครจะรับเรื่องเลย ก็เลยเปลี่ยนใจทำใกล้บ้านดีกว่า เอารถเข้าไปเลย

ฝ่ายอะไหล่ก็จดเลขตัวถังไปสั่งอะไหล่ ตอนแรกบอกว่าไม่ต้องมัดจำ เราก็ดีใจ กำลังจะขับรถออก ฝ่ายอะไหล่วิ่งมาขอโทษบอกว่าต้องมัดจำ แล้วก็นัดวันรุ่งขึ้นมาติด

วันรุ่งขึ้น เราก็ดีใจจะได้เสร็จเรื่องซะที ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ทำหน้างง ใครเป็นคนรับเรื่อง ใครบอกว่าติดแป๊ปเดียวเสร็จ แล้วก็ชี้แจงว่า ต้องนัดวันและต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วันในการทำ ต้องขัดซิลิโคนเก่าออก ทาน้ำยาเคลือบ รอให้แห้ง อาจต้องทำสี เพราะมันเป็นรอยถลอกจากการใช้ลวดแชะ เขากังวลว่าอาจจะเป็นสนิมได้ และดีนะที่ช่างเขาไม่ได้ตัด connector จุดต่อสายสัญญาณวิทยุ แต่ใช้สายไฟเสียบต่อไปยังอีกมุม เพราะกระจกรุ่นใหม่ จุดต่อมันอยู่คนละมุมกันเลย เกือบไปแล้วเรา

พร้อมกับแจงค่าใช้จ่ายใหม่ จะมีค่าซิลิโคนและน้ำยาอีก ค่าแรงก็คงพันกว่าบาท นัดวันติดตั้งอีก 2 อาทิตย์ ระหว่างนี้ไปไหนไม่ได้เลย กลัวรถหาย ลำบากมาก

ส่วนค่าฟิล์มสำหรับกระจกมุมขวานี้ คงไม่ใช่ 200 บาทแน่เลย เพราะราคานี้เป็นการหักจากฟิล์มที่ไม่มีบัตรรับประกัน ซึ่งเราคิดผิดไป

ฟิล์ม 3M ที่ติดมาเบอร์ FXR35 สีก็ออกโทนชมพูๆเหลืองๆ แต่บานหน้า FX30 สีธรรมชาติดีมาก ฟองอากาศก็เยอะ ฝีมือไม่ดี ตอนนี้กำลังแจ้ง 3M ไปว่าจะทำอย่างไรดี ไม่อยากกลับไปที่ร้านเดิมแล้ว จะมีปัญหากันแน่นอน
Post Reply