ครบเครื่องเรื่องยาง 265/70/R16
ครบเครื่องเรื่องยาง 265/70/R16
- มาตราฐาน Fortuner เติมลมยาง 30 psi
- หากเติมลมยางหลังใช้งาน ควรเติมเพิ่มประมาณ 2 psi เพื่อชดเชยความดันอากาศที่ขยายตัว จากการเกิดความร้อนของยางขณะวิ่ง
- หากเติมลมยางหลังใช้งาน ควรเติมเพิ่มประมาณ 2 psi เพื่อชดเชยความดันอากาศที่ขยายตัว จากการเกิดความร้อนของยางขณะวิ่ง
Re: ครบเครื่องเรื่องยาง 265/70/R16
การปรับตัวของยางใหม่
ยางรถยนต์เส้นใหม่ก็เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ใหม่ เมื่อเริ่มนำไปใช้งานจริงก็ต้องมีการปรับสภาพตัวเองไปกับการใช้งาน หรือที่เรียกกันว่าระยะรันอิน (run in) ดังนั้นในระยะ 100 - 200 กิโลเมตรแรกของการใช้งานจึงไม่ควรใช้ความเร็วสูงเกินไป ควรขับขี่อยู่ที่ความเร็วไม่เกิน 80 - 100 กม./ชม. เพื่อให้โครงยาง แก้มยาง และหน้ายางปรับสภาพไปกับการใช้งานบนพื้นผิวถนน เนื่องจากมุมล้อของรถแต่ละคันนั้นไม่ว่าจะเป็น มุมโท (toe) มุมแคมเบอร์ (camber) มุมคาสเตอร์ (caster) ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ยังเป็นการถนอมช่วงล่างรถอีกด้วย
นอกจากนี้สำหรับยางใหม่ที่ได้รับการเติมลมยางครั้งแรกแล้ว ในช่วง 3,000 กิโลเมตรแรกควรเพิ่มความถี่ในการตรวจเช็คความดันลมยางด้วย เพราะโครงยางจะมีการยืดขยายออกอีกเล็กน้อย สืบเนื่องจากการปรับสภาพในการใช้งานจริงซึ่งอาจเป็นผลให้ความดันลมยางลดต่ำลงเล็กน้อย และเพื่อป้องกันลมรั่วซึมที่วาล์วและแกนวาล์ว ดังนั้นจึงควรตรวจเช็คความดันลมยางทุกๆสัปดาห์ หรืออย่างน้อยเดือนละครั้ง
เวลาเปลี่ยนยางใหม่ๆ ยางมักจะนิ่มกว่าปกติ ถ้าเติมลมตามปกติจะเห็นว่าแก้มยางดูเหมือนยวบโป่งคล้ายลมยางอ่อน ร้านมักจะเติมลมมากกว่าปกติ +5 psi ส่วนนึงก็ช่วยให้ขอบยางดันติดกับกระทะล้อด้วยกัน พอพ้นระยะรันอินแล้วค่อยลดแรงดันให้ได้ตามค่าที่โรงงานกำหนดมา
ยางรถยนต์เส้นใหม่ก็เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ใหม่ เมื่อเริ่มนำไปใช้งานจริงก็ต้องมีการปรับสภาพตัวเองไปกับการใช้งาน หรือที่เรียกกันว่าระยะรันอิน (run in) ดังนั้นในระยะ 100 - 200 กิโลเมตรแรกของการใช้งานจึงไม่ควรใช้ความเร็วสูงเกินไป ควรขับขี่อยู่ที่ความเร็วไม่เกิน 80 - 100 กม./ชม. เพื่อให้โครงยาง แก้มยาง และหน้ายางปรับสภาพไปกับการใช้งานบนพื้นผิวถนน เนื่องจากมุมล้อของรถแต่ละคันนั้นไม่ว่าจะเป็น มุมโท (toe) มุมแคมเบอร์ (camber) มุมคาสเตอร์ (caster) ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ยังเป็นการถนอมช่วงล่างรถอีกด้วย
นอกจากนี้สำหรับยางใหม่ที่ได้รับการเติมลมยางครั้งแรกแล้ว ในช่วง 3,000 กิโลเมตรแรกควรเพิ่มความถี่ในการตรวจเช็คความดันลมยางด้วย เพราะโครงยางจะมีการยืดขยายออกอีกเล็กน้อย สืบเนื่องจากการปรับสภาพในการใช้งานจริงซึ่งอาจเป็นผลให้ความดันลมยางลดต่ำลงเล็กน้อย และเพื่อป้องกันลมรั่วซึมที่วาล์วและแกนวาล์ว ดังนั้นจึงควรตรวจเช็คความดันลมยางทุกๆสัปดาห์ หรืออย่างน้อยเดือนละครั้ง
เวลาเปลี่ยนยางใหม่ๆ ยางมักจะนิ่มกว่าปกติ ถ้าเติมลมตามปกติจะเห็นว่าแก้มยางดูเหมือนยวบโป่งคล้ายลมยางอ่อน ร้านมักจะเติมลมมากกว่าปกติ +5 psi ส่วนนึงก็ช่วยให้ขอบยางดันติดกับกระทะล้อด้วยกัน พอพ้นระยะรันอินแล้วค่อยลดแรงดันให้ได้ตามค่าที่โรงงานกำหนดมา
Re: ครบเครื่องเรื่องยาง 265/70/R16
จอดรถทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งาน ทำให้ยางหมดสภาพได้
สำหรับผู้ที่เพิ่งเปลี่ยนยางใหม่ ผู้ที่ใช้รถน้อยหรือมีความจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้ ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ควรที่จะนำรถไปขับขี่หรือเคลื่อนที่ เพื่อให้ยางได้หมุนบ้าง เพราะการจอดรถอยู่กับที่เป็นระยะเวลานานๆ เช่น มากกว่า 1 เดือนขึ้นไป ก็อาจจะทำให้เกิด FLAT SPOT ที่หน้ายาง หรืออาการไม่คืนตัวของการยุบตัวของโครงยางส่วนหน้าที่สัมผัสกับพื้นได้ เนื่องจากน้ำหนักของตัวรถยนต์ทั้งหมดจะตกสู่ยางแต่ละเส้นในจุดเดียว ทำให้โครงยางเสียรูป ไม่กลม เมื่อนำรถยนต์ไปขับขี่ภายหลัง อาจทำให้เกิดอาการสั่นเต้นได้ หากจำเป็นจริงๆต้องจอดรถไว้เป็นเวลานานๆโดยไม่ได้ใช้งาน ก็ควรจะเพิ่มความดันลมยางให้มากกว่าปกติ 5 - 10 psi หรือหากเป็นไปได้วิธีที่ดีที่สุดในกรณีที่ต้องจอดรถทิ้งไว้นานเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไปนั้น ขอแนะนำให้ยกรถตั้งบนแท่นวางทั้ง 4 ล้อ ซึ่งทำให้น้ำหนักรถไม่กดทับลงบนยาง เป็นการรักษารูปร่างของยางได้ดีที่สุด
สำหรับผู้ที่เพิ่งเปลี่ยนยางใหม่ ผู้ที่ใช้รถน้อยหรือมีความจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้ ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ควรที่จะนำรถไปขับขี่หรือเคลื่อนที่ เพื่อให้ยางได้หมุนบ้าง เพราะการจอดรถอยู่กับที่เป็นระยะเวลานานๆ เช่น มากกว่า 1 เดือนขึ้นไป ก็อาจจะทำให้เกิด FLAT SPOT ที่หน้ายาง หรืออาการไม่คืนตัวของการยุบตัวของโครงยางส่วนหน้าที่สัมผัสกับพื้นได้ เนื่องจากน้ำหนักของตัวรถยนต์ทั้งหมดจะตกสู่ยางแต่ละเส้นในจุดเดียว ทำให้โครงยางเสียรูป ไม่กลม เมื่อนำรถยนต์ไปขับขี่ภายหลัง อาจทำให้เกิดอาการสั่นเต้นได้ หากจำเป็นจริงๆต้องจอดรถไว้เป็นเวลานานๆโดยไม่ได้ใช้งาน ก็ควรจะเพิ่มความดันลมยางให้มากกว่าปกติ 5 - 10 psi หรือหากเป็นไปได้วิธีที่ดีที่สุดในกรณีที่ต้องจอดรถทิ้งไว้นานเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไปนั้น ขอแนะนำให้ยกรถตั้งบนแท่นวางทั้ง 4 ล้อ ซึ่งทำให้น้ำหนักรถไม่กดทับลงบนยาง เป็นการรักษารูปร่างของยางได้ดีที่สุด
Re: ครบเครื่องเรื่องยาง 265/70/R16
การเตรียมยางเมื่อต้องเดินทางไกล
ควรเพิ่มความดันลมยางให้มากกว่าปกติ 3 - 5 psi เพื่อลดการบิดตัวของโครงยางทำให้การทรงตัวของรถดีขึ้น วิธีนี้อาจจะตรงข้ามกับความเชื่อที่ว่ายิ่ง เติมลมยางมากยางยิ่งแตกง่าย แต่ความจริงก็คือความดันลมยางน้อยหรือลมยางที่อ่อน จะทำให้แก้มยางบิดตัวจนเกิดความร้อนสะสมอยู่ในเนื้อยาง ส่งผลให้ความดันลมยางสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจทำให้ยางระเบิดได้ในขณะขับขี่
ควรเพิ่มความดันลมยางให้มากกว่าปกติ 3 - 5 psi เพื่อลดการบิดตัวของโครงยางทำให้การทรงตัวของรถดีขึ้น วิธีนี้อาจจะตรงข้ามกับความเชื่อที่ว่ายิ่ง เติมลมยางมากยางยิ่งแตกง่าย แต่ความจริงก็คือความดันลมยางน้อยหรือลมยางที่อ่อน จะทำให้แก้มยางบิดตัวจนเกิดความร้อนสะสมอยู่ในเนื้อยาง ส่งผลให้ความดันลมยางสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจทำให้ยางระเบิดได้ในขณะขับขี่
Re: ครบเครื่องเรื่องยาง 265/70/R16
เวลาเปลี่ยนยางใหม่ ทางร้านต้องเปลี่ยนวาล์วและแกนวาล์วใหม่ทุกครั้ง เพื่อป้องกันลมรั่วซึมที่วาล์ว
Re: ครบเครื่องเรื่องยาง 265/70/R16
ลมไนโตรเจน
ในปัจจุบันได้มีการนำก๊าซไนโตรเจนมาใช้เติมยางรถยนต์แทนอากาศที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ด้วยคุณสมบัติของก๊าซไนโตรเจนที่เป็นก๊าซที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่กว่า และมีความว่องไวในการเกิดปฏิกิริยาน้อยกว่าก๊าซออกซิเจน
ข้อดีของลมยางไนโตรเจน
- ไม่ต้องตรวจเช็คลมยางบ่อยๆ เพราะไนโตรเจนมีขนาดอะตอมที่ใหญ่กว่าออกซิเจน ทำให้ซึมผ่านออกไปทางพื้นผิวของยางได้ช้ากว่า
- ลมไนโตรเจนเป็นอโลหะ ไม่มีกลิ่น รส หรือสี
- ช่วยลดการระเบิดของยางรถยนต์ ไนโตรเจนเป็นแก๊สเฉื่อยมีการเคลื่อนที่ช้า ทำให้ไม่เกิดความร้อนสะสม แรงดันจึงคงที่
- ไม่ทำให้ล้อกะทะเป็นสนิม เพราะไนโตรเจนนั้นไม่มีส่วนประกอบของไอน้ำ
- ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้นและลดเสียงดังจากรอยต่อตะเข็บของถนนได้
- ช่วยประหยัดน้ำมันได้ จากผลการทดลองในอเมริกา เมื่ออุณหภูมิของยางลดลงจะส่งผลให้แรงเสียดทานของหน้ายางกับถนนลดลงด้วย
ข้อเสีย
- ต้องบอกช่างทุกคนว่าเป็นลมยางไนโตรเจน
- ถ้าถ่ายลมเก่าออกหมด อาจทำให้ยางเสียรูปร่าง
ในปัจจุบันได้มีการนำก๊าซไนโตรเจนมาใช้เติมยางรถยนต์แทนอากาศที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ด้วยคุณสมบัติของก๊าซไนโตรเจนที่เป็นก๊าซที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่กว่า และมีความว่องไวในการเกิดปฏิกิริยาน้อยกว่าก๊าซออกซิเจน
ข้อดีของลมยางไนโตรเจน
- ไม่ต้องตรวจเช็คลมยางบ่อยๆ เพราะไนโตรเจนมีขนาดอะตอมที่ใหญ่กว่าออกซิเจน ทำให้ซึมผ่านออกไปทางพื้นผิวของยางได้ช้ากว่า
- ลมไนโตรเจนเป็นอโลหะ ไม่มีกลิ่น รส หรือสี
- ช่วยลดการระเบิดของยางรถยนต์ ไนโตรเจนเป็นแก๊สเฉื่อยมีการเคลื่อนที่ช้า ทำให้ไม่เกิดความร้อนสะสม แรงดันจึงคงที่
- ไม่ทำให้ล้อกะทะเป็นสนิม เพราะไนโตรเจนนั้นไม่มีส่วนประกอบของไอน้ำ
- ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้นและลดเสียงดังจากรอยต่อตะเข็บของถนนได้
- ช่วยประหยัดน้ำมันได้ จากผลการทดลองในอเมริกา เมื่ออุณหภูมิของยางลดลงจะส่งผลให้แรงเสียดทานของหน้ายางกับถนนลดลงด้วย
ข้อเสีย
- ต้องบอกช่างทุกคนว่าเป็นลมยางไนโตรเจน
- ถ้าถ่ายลมเก่าออกหมด อาจทำให้ยางเสียรูปร่าง
Re: ครบเครื่องเรื่องยาง 265/70/R16
จุดสีเหลืองและจุดสีแดงบนแก้มยาง
จุดสีเหลือง คือบริเวณที่ยางมีน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับบริเวณอื่น เมื่อนำยางมาประกอบกับกระทะล้อ ควรให้วาล์วเติมลมตรงกับจุดสีเหลืองนี้ เพื่อช่วยให้น้ำหนักของยางสมดุลดีกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยให้การถ่วงล้อทำได้ง่ายยิ่งขึ้น
จุดสีแดง คือบริเวณที่หน้ายางมีค่าความโค้งตามแนวรัศมีมากกว่าบริเวณอื่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นยางที่ส่งให้กับโรงงานประกอบรถยนต์ที่ใช้ประโยชน์จากจุดแดงนี้ เนื่องจากกระทะล้อที่ส่งมาเพื่อประกอบกับยางจะมีจุดที่แสดงค่าความโค้งที่ขอบกระทะล้อด้วยเช่นกัน เมื่อประกอบให้จุดทั้ง 2 ตรงกัน จะช่วยให้ยางเส้นนั้นมีความกลมตามแนวรัศมีดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ในการติดตั้งยางเข้ากับตัวรถ จุดสีเหลืองและจุดแดงจะอยู่ด้านนอกหรือด้านในไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือทิศทางการหมุนของดอกยางเป็นสำคัญ ซึ่งจะมีทั้งแบบดอกยางธรรมดาและดอกยางแบบทิศทางเดียว
แถบเส้นสีที่หน้ายาง (Runout Stripes)
บ่งบอกถึงความกลมของยาง เราควรเลือกยางที่เส้นสีนี้อยู่ตรงกลาง หรือมีเส้นสมมาตรสองเส้นทั้งซ้ายขวา ถ้ามีเส้นนี้อยู่ด้านนอกทุกเส้นก็ควรใส่ยางให้เส้นนี้อยู่ด้านนอกของยางคนละฝั่งกัน ไม่ควรให้เส้นสีอยู่ด้านเดียวกันเพราะจะทำให้รถเราวิ่งกินเลนไปด้านของเส้นสีที่ปรากฏ
จุดสีเหลือง คือบริเวณที่ยางมีน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับบริเวณอื่น เมื่อนำยางมาประกอบกับกระทะล้อ ควรให้วาล์วเติมลมตรงกับจุดสีเหลืองนี้ เพื่อช่วยให้น้ำหนักของยางสมดุลดีกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยให้การถ่วงล้อทำได้ง่ายยิ่งขึ้น
จุดสีแดง คือบริเวณที่หน้ายางมีค่าความโค้งตามแนวรัศมีมากกว่าบริเวณอื่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นยางที่ส่งให้กับโรงงานประกอบรถยนต์ที่ใช้ประโยชน์จากจุดแดงนี้ เนื่องจากกระทะล้อที่ส่งมาเพื่อประกอบกับยางจะมีจุดที่แสดงค่าความโค้งที่ขอบกระทะล้อด้วยเช่นกัน เมื่อประกอบให้จุดทั้ง 2 ตรงกัน จะช่วยให้ยางเส้นนั้นมีความกลมตามแนวรัศมีดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ในการติดตั้งยางเข้ากับตัวรถ จุดสีเหลืองและจุดแดงจะอยู่ด้านนอกหรือด้านในไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือทิศทางการหมุนของดอกยางเป็นสำคัญ ซึ่งจะมีทั้งแบบดอกยางธรรมดาและดอกยางแบบทิศทางเดียว
แถบเส้นสีที่หน้ายาง (Runout Stripes)
บ่งบอกถึงความกลมของยาง เราควรเลือกยางที่เส้นสีนี้อยู่ตรงกลาง หรือมีเส้นสมมาตรสองเส้นทั้งซ้ายขวา ถ้ามีเส้นนี้อยู่ด้านนอกทุกเส้นก็ควรใส่ยางให้เส้นนี้อยู่ด้านนอกของยางคนละฝั่งกัน ไม่ควรให้เส้นสีอยู่ด้านเดียวกันเพราะจะทำให้รถเราวิ่งกินเลนไปด้านของเส้นสีที่ปรากฏ
Re: ครบเครื่องเรื่องยาง 265/70/R16
องค์ประกอบของศูนย์ล้อ
มุม CAMBER
ถ้าส่วนล่างเอียงเข้าหากันเราเรียกว่ามุม CAMBER+ ข้อดีคือยางจะรับน้ำหนักบรรทุกได้พอดีกับหน้ายาง
ถ้าส่วนล่างเอียงออกจากกันเราเรียกว่ามุม CAMBER- ข้อดีคือจะเลี้ยวได้ดีขึ้น
มุม TOE-IN ส่วนหน้าของยางหุบเข้า
มุม TOE-OUT ส่วนหน้าของยางกางออก
มุม CASTER เป็นมุมที่ทำให้รถวิ่งตรงไปข้างหน้าได้ง่าย
มุม KINGPIN เป็นตัวรับน้ำหนักจากรถไปยังล้อ และขณะเดียวกันก็เป็นเพลาของศูนย์ล้อด้วย
มุม KINGPIN มีส่วนสัมพันธ์กับมุมของ CAMBER มาก
มุม KINGPIN จะช่วยทำให้การบังคับพวงมาลัยทำได้ง่าย และเมื่อเลี้ยวไปแล้วพวงมาลัยสามารถคืนกลับมาได้เอง
Ref: http://netisak.lpru.ac.th/bmw_e34_diy/wheels_alignment.php
มุม CAMBER
ถ้าส่วนล่างเอียงเข้าหากันเราเรียกว่ามุม CAMBER+ ข้อดีคือยางจะรับน้ำหนักบรรทุกได้พอดีกับหน้ายาง
ถ้าส่วนล่างเอียงออกจากกันเราเรียกว่ามุม CAMBER- ข้อดีคือจะเลี้ยวได้ดีขึ้น
มุม TOE-IN ส่วนหน้าของยางหุบเข้า
มุม TOE-OUT ส่วนหน้าของยางกางออก
มุม CASTER เป็นมุมที่ทำให้รถวิ่งตรงไปข้างหน้าได้ง่าย
มุม KINGPIN เป็นตัวรับน้ำหนักจากรถไปยังล้อ และขณะเดียวกันก็เป็นเพลาของศูนย์ล้อด้วย
มุม KINGPIN มีส่วนสัมพันธ์กับมุมของ CAMBER มาก
มุม KINGPIN จะช่วยทำให้การบังคับพวงมาลัยทำได้ง่าย และเมื่อเลี้ยวไปแล้วพวงมาลัยสามารถคืนกลับมาได้เอง
Ref: http://netisak.lpru.ac.th/bmw_e34_diy/wheels_alignment.php
Re: ครบเครื่องเรื่องยาง 265/70/R16
การสลับยาง
ยางเรเดียลจะสลับครั้งแรกที่ระยะประมาณ 5,000 กิโลเมตร และครั้งต่อๆไปที่ระยะทาง 10,000 กิโลเมตร โดยบริดจสโตนยืนยันว่า สามารถใช้งานได้จนหมดดอกยาง แม้ยางนั้นจะใช้งานมานาน 4-5 ปี ซึ่งสังเกตได้จากดอกยางสึกจนเสมอกับบั้งหรือบันไดระหว่างดอกยาง แต่ต้องยอมรับสมรรถนะการใช้งานอาจจะลดลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียง หรือความนุ่มที่เปลี่ยนไป บริดจสโตนมีการรับประกันยาง 4 ปี
ยางเรเดียลจะสลับครั้งแรกที่ระยะประมาณ 5,000 กิโลเมตร และครั้งต่อๆไปที่ระยะทาง 10,000 กิโลเมตร โดยบริดจสโตนยืนยันว่า สามารถใช้งานได้จนหมดดอกยาง แม้ยางนั้นจะใช้งานมานาน 4-5 ปี ซึ่งสังเกตได้จากดอกยางสึกจนเสมอกับบั้งหรือบันไดระหว่างดอกยาง แต่ต้องยอมรับสมรรถนะการใช้งานอาจจะลดลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียง หรือความนุ่มที่เปลี่ยนไป บริดจสโตนมีการรับประกันยาง 4 ปี