มารู้จักกับกระดาษลูกฟูก
กระดาษลูกฟูกทำมาจากกระดาษคราฟท์ (Kraft Paper) ที่มีความเหนียวและแข็งแรงกว่ากระดาษธรรมดา สามารถป้องกันแรงอัดและการทิ่มแทงจากการกระทบกระแทกจากภายนอกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการต้านทานการเปียกน้ำ ต้านทานการเปรอะน้ำมัน ต้านทานการเสียดสี มีน้ำหนักกระดาษ มีความหนา และมีความเรียบสม่ำเสมอ สามารถติดกาวได้ดีและเหมาะสำหรับการพิมพ์ ทำให้สามารถนำมาแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์และภาชนะหีบห่อได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังสามารถนำกลับมาหมุนเวียนใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษได้อีก
มารู้จักกับกระดาษลูกฟูก
Re: มารู้จักกับกระดาษลูกฟูก
ชนิดของกระดาษคราฟท์
KS, KW - กระดาษคราฟท์สีขาวสำหรับทำผิวกล่อง มีความเรียบ สะอาด เหมาะสำหรับกล่องที่เน้นความสวยงาม และช่วยให้การพิมพ์ที่มีสีสันชัดเจนดูโดดเด่น (น้ำหนักมาตราฐาน : KS170)
KA - กระดาษคราฟท์สีเหลืองทองสำหรับทำผิวกล่อง มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ สามารถรองรับน้ำหนักได้ดีเยี่ยมและเป็นสีที่นิยมใช้กันมากในประเทศ เหมาะสำหรับสินค้าอะไหล่ยนต์ อาหารกระป๋อง กล่องเฟอร์นิเจอร์ ใช้ในห้องเย็น ที่ต้องการความมั่นใจในเรื่องความแข็งแรงทุกรูปแบบทั้งการเรียงซ้อนและการป้องกันการกระแทก (น้ำหนักมาตราฐาน : KA125, KA150, KA185, KA230)
KI - กระดาษคราฟท์สีน้ำตาลอ่อนสำหรับทำผิวกล่อง สีอ่อนสบายตา เหมาะกับงานพิมพ์ภาพหรือตัวหนังสือให้มีสีสวยงามด้านการพิมพ์รองจากกระดาษขาว นิยมใช้กับสินค้าที่ไม่ต้องการความแข็งแรงมากเท่า KA เหมาะกับกล่องสินค้าทั่วไป เช่น กล่องอาหารสำเร็จรูป กล่องเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการพิมพ์เป็นภาพสี (น้ำหนักมาตราฐาน : KI125, KI150, KI185)
KP, KL - กระดาษคราฟท์สีน้ำตาลสำหรับทำผิวกล่อง เป็นที่ยอมรับกันในสากล เหมาะกับการใช้ผลิตกล่องสำหรับสินค้าส่งออกทุกชนิด (น้ำหนักมาตราฐาน : KP175, KP275)
KT - กระดาษคราฟท์สีน้ำตาลสำหรับทำผิวกล่อง ผลิตจากเยื่อ Recycled 100% เพื่อส่งเสริมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เหมาะกับสินค้าส่งออกที่ระบุให้ใช้กล่องที่ทำจากเยื่อ Recycled ทั้งหมด (น้ำหนักมาตราฐาน : KT125, KT150)
CA, M - กระดาษคราฟท์สำหรับทำลอนลูกฟูก มีคุณสมบัติความแข็งแรงในการป้องกันแรงกระแทก สำหรับทำลอนลูกฟูกขนาดต่างๆ และนิยมนำมาใช้ทำเป็นกล่องราคาถูก ทำไส้กล่องสำหรับกั้นสินค้า (น้ำหนักมาตราฐาน : CA105, CA125)
KS, KW - กระดาษคราฟท์สีขาวสำหรับทำผิวกล่อง มีความเรียบ สะอาด เหมาะสำหรับกล่องที่เน้นความสวยงาม และช่วยให้การพิมพ์ที่มีสีสันชัดเจนดูโดดเด่น (น้ำหนักมาตราฐาน : KS170)
KA - กระดาษคราฟท์สีเหลืองทองสำหรับทำผิวกล่อง มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ สามารถรองรับน้ำหนักได้ดีเยี่ยมและเป็นสีที่นิยมใช้กันมากในประเทศ เหมาะสำหรับสินค้าอะไหล่ยนต์ อาหารกระป๋อง กล่องเฟอร์นิเจอร์ ใช้ในห้องเย็น ที่ต้องการความมั่นใจในเรื่องความแข็งแรงทุกรูปแบบทั้งการเรียงซ้อนและการป้องกันการกระแทก (น้ำหนักมาตราฐาน : KA125, KA150, KA185, KA230)
KI - กระดาษคราฟท์สีน้ำตาลอ่อนสำหรับทำผิวกล่อง สีอ่อนสบายตา เหมาะกับงานพิมพ์ภาพหรือตัวหนังสือให้มีสีสวยงามด้านการพิมพ์รองจากกระดาษขาว นิยมใช้กับสินค้าที่ไม่ต้องการความแข็งแรงมากเท่า KA เหมาะกับกล่องสินค้าทั่วไป เช่น กล่องอาหารสำเร็จรูป กล่องเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการพิมพ์เป็นภาพสี (น้ำหนักมาตราฐาน : KI125, KI150, KI185)
KP, KL - กระดาษคราฟท์สีน้ำตาลสำหรับทำผิวกล่อง เป็นที่ยอมรับกันในสากล เหมาะกับการใช้ผลิตกล่องสำหรับสินค้าส่งออกทุกชนิด (น้ำหนักมาตราฐาน : KP175, KP275)
KT - กระดาษคราฟท์สีน้ำตาลสำหรับทำผิวกล่อง ผลิตจากเยื่อ Recycled 100% เพื่อส่งเสริมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เหมาะกับสินค้าส่งออกที่ระบุให้ใช้กล่องที่ทำจากเยื่อ Recycled ทั้งหมด (น้ำหนักมาตราฐาน : KT125, KT150)
CA, M - กระดาษคราฟท์สำหรับทำลอนลูกฟูก มีคุณสมบัติความแข็งแรงในการป้องกันแรงกระแทก สำหรับทำลอนลูกฟูกขนาดต่างๆ และนิยมนำมาใช้ทำเป็นกล่องราคาถูก ทำไส้กล่องสำหรับกั้นสินค้า (น้ำหนักมาตราฐาน : CA105, CA125)
Re: มารู้จักกับกระดาษลูกฟูก
ค่าความแข็งแรงของกระดาษคราฟท์
Re: มารู้จักกับกระดาษลูกฟูก
ชนิดของลอนลูกฟูก
Re: มารู้จักกับกระดาษลูกฟูก
ชนิดของกระดาษลูกฟูก
Single Face (กระดาษลูกฟูกสองชั้น) ประกอบไปด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 1 แผ่นปะกบกับลอนลูกฟูก 1 แผ่น นิยมใช้กันกระแทกสินค้าหรือปะกล่อง offset ลอนมาตรฐานคือ B, C, E
Single Wall (กระดาษลูกฟูกสามชั้น) ประกอบไปด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 2 แผ่นปะกบกับลอนลูกฟูก 1 แผ่น โดยลอนลูกฟูกจะอยู่ตรงกลางระหว่างกระดาษแผ่นเรียบทั้ง 2 แผ่น มักใช้กับสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลางหรือไม่เน้นความแข็งแรงมาก ลอนมาตรฐานคือ B, C, E
Double Wall (กระดาษลูกฟูกห้าชั้น) ประกอบไปด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 3 แผ่นปะกบกับลอนลูกฟูก 2 แผ่น โดยลอนลูกฟูกที่อยู่ติดกับผิวกล่องด้านนอกจะเป็นลอน B เพื่อประโยชน์ทางการพิมพ์ และลอนลูกฟูกที่อยู่ด้านในจะเป็นลอน C เพื่อประโยชน์ทางด้านรับแรงกระแทก นิยมใช้สำหรับสินค้าที่ต้องการการป้องกันสูงหรือมีน้ำหนักมาก ลอนมาตรฐานคือ BC (ลอน B จะอยู่ด้านนอก ส่วนลอน C จะอยู่ด้านใน)
Single Face (กระดาษลูกฟูกสองชั้น) ประกอบไปด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 1 แผ่นปะกบกับลอนลูกฟูก 1 แผ่น นิยมใช้กันกระแทกสินค้าหรือปะกล่อง offset ลอนมาตรฐานคือ B, C, E
Single Wall (กระดาษลูกฟูกสามชั้น) ประกอบไปด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 2 แผ่นปะกบกับลอนลูกฟูก 1 แผ่น โดยลอนลูกฟูกจะอยู่ตรงกลางระหว่างกระดาษแผ่นเรียบทั้ง 2 แผ่น มักใช้กับสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลางหรือไม่เน้นความแข็งแรงมาก ลอนมาตรฐานคือ B, C, E
Double Wall (กระดาษลูกฟูกห้าชั้น) ประกอบไปด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 3 แผ่นปะกบกับลอนลูกฟูก 2 แผ่น โดยลอนลูกฟูกที่อยู่ติดกับผิวกล่องด้านนอกจะเป็นลอน B เพื่อประโยชน์ทางการพิมพ์ และลอนลูกฟูกที่อยู่ด้านในจะเป็นลอน C เพื่อประโยชน์ทางด้านรับแรงกระแทก นิยมใช้สำหรับสินค้าที่ต้องการการป้องกันสูงหรือมีน้ำหนักมาก ลอนมาตรฐานคือ BC (ลอน B จะอยู่ด้านนอก ส่วนลอน C จะอยู่ด้านใน)