สรุปย่อ เสียดายไอน์สไตน์ไม่ได้อ่าน by ทันตแพทย์สม สุจีรา

Post Reply
Nadda
Posts: 258
Joined: Tue 05 May 2009 8:20 pm

สรุปย่อ เสียดายไอน์สไตน์ไม่ได้อ่าน by ทันตแพทย์สม สุจีรา

Post by Nadda »

234426_01_Doctor_Som.jpg 1.เมื่อเด็กคนหนึ่งเกิดมา รหัสพันธุกรรมได้ซ่อนสิ่งต่างๆไว้มากมาย รอวันแสดงผลตามช่วงวัย ไม่เฉพาะรูปร่างภายนอก อวัยวะภายในทั้งหมด ระบบเลือด ภูมิคุ้มกัน โรคร้ายต่างๆด้วย (เกิดมาพร้อมกับพิมพ์เขียวในอนาคต)

2.นอกจากรหัสพันธุกรรมที่ซ่อนอยู่ ยังมีรหัสวิบากกรรม ทำให้ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น พันธุกรรมเสื่อมสลายแต่วิบากกรรมสามารถติดตามข้ามภพชาติได้

3.สมองไม่ได้เก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้ เซลล์ต่างๆในร่างกายก็เก็บไว้ด้วย มีการวิจัยพบว่า คนไข้ที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหลายคนมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เช่น ชอบฟังดนตรีคลาสสิก โดยก่อนหน้านั้นไม่มีความชอบแบบนั้นเลย แต่กลับไปตรงกับความชอบเดิมของผู้บริจาคอวัยวะ

4.ความรู้สึกนี้พระพุทธองค์จำแนกละเอียดว่ามี 52 แบบ เรียกว่า เจตสิก เมื่อเกิดในภพชาติใหม่เจตสิกจะเหนี่ยวนำให้มีความรู้สึกและพฤติกรรมตามกรรมเก่าที่เก็บข้อมูลไว้

5.กายหยาบก็เหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าคุณสมบัติต่ำก็จะไม่สามารถรับข้อมูลได้ทั้งหมด เช่น สัตว์พูดไม่ได้ กรรมบางอย่างก็จะถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลจักรวาลเพื่อรอแสดงผลเมื่อเหตุปัจจัยเหมาะสม

6.หลักความพัวพันทางควอนตัม คือการส่งข้อมูลเหนือมิติที่สี่ (เวลา) สิ่งที่แปลกอย่างหนึ่งในการส่งผ่านข้อมูลแบบนี้คือ มันจะส่งกลับด้านเสมอ คล้ายกระจกเงา ผลของกรรมก็จะแปลผลกลับด้วย เช่น เมื่อเราเมตตาต่อคนอื่น ทางกลับกัน คนอื่นก็จะเมตตาเรา ชื่นชอบ อยากช่วยเหลือเราด้วย

7.จิตเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของโลก เหมือน เวลา อวกาศ สสารหรือพลังงาน

8.กฏของนิวตันเปิดมิติที่สาม ทฤษฏีสัมพัทธภาพเปิดมิติที่สี่ ทฤษฏีควอนตัมเปิดมิติที่ห้า

9.ทุกคนเมื่อใกล้ตายจะเกิดนิมิตขึ้นไม่ว่าจะกะทันหันเพียงใด นิมิตเปรียบเสมือนการบีบอัดข้อมูลภพปัจจุบันเพื่อส่งต่อเข้าฐานข้อมูลจักรวาลก่อนกายหยาบแตกสลาย

10.ดีเอ็นเอในร่างกายสามารถสื่อสารกับดีเอ็นเอของตัวเองที่อยู่ภายนอกร่างกายได้แบบไม่จำกัดเวลาหรือระยะทาง ขณะเดียวกันการกระทำต่อดีเอ็นเอผู้อื่น ก็มีผลเช่นเดียวกัน เช่น ดีเอ็นเอในหลอดทดลองที่สกัดจากรกในครรภ์ เมื่อโดนดุด่า ทำร้ายก็จะหดตัว

11.นิสัยในระดับตื้นสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้หลัง 21 วัน (21 Days Habit Theory) ส่วนนิสัยในระดับลึกต้องใช้เวลาประมาณ 2-8 เดือน (ดร.แม็กเวลล์ มอลทซ์ , ดร.ฟิลลิปปา ลอลลี่)

12.ยีนกำหนดอารมณ์และพฤติกรรมของมนุษย์ เช่น คนก้าวร้าว ชอบใช้ความรุนแรง จะมียีน โมโน เอมีน ออกซิเดส เอ, คนที่ชอบความเสี่ยง ไม่มียีนในกลุ่ม GluR6, คนอ้วนจะมียีน fat gene FTO หรือยีนแห่งความสุข, คนเครียดง่ายมักมีโครโมโซมคู่ที่ 17 ผิดปกติทำให้ไม่ไปกระตุ้นการทำงานของซีโรโทนิน

13.อารมณ์ความรู้สึกทางพุทธศาสนาบอกว่าเกิดจากการทำงานของวิบากกรรมในจิต โดยใช้ยีนหรือพันธุกรรมเป็นเครื่องมือในการแสดงผล เนื่องจากดีเอ็นเอสามารถสื่อสารกับฐานข้อมูลจักรวาลในระดับมิติที่ห้า

14.จิตใต้สำนึกเป็นคนละตัวกันกับความคิด มันแปลผลจากความรู้สึกเท่านั้น เช่น จอดรถในที่คนพิการ ได้จอดใกล้ๆแล้วมีความสุข จิตใต้สำนึกจะบันทึกว่าเบียดเบียนคนพิการ = ความสุข

15.ความคิดเป็นเรื่องของสมอง ความรู้สึกเป็นเรื่องจิตวิญญาญ แต่ความคิดก็เปลี่ยนเป็นความรู้สึกได้ เมื่อคิดซ้ำๆอย่างต่อเนื่องยาวนาน

16.คนคิดกันว่า อดีตส่งผลถึงอนาคต แต่ไม่คิดว่า อนาคตก็ส่งผลถึงอดีต เช่น เพราะคุณจะต้องเป็นหมออยู่แล้ว ปัจจุบันคุณถึงตั้งใจเรียน

17.ไอน์สไตน์เคยพูดว่า "God does not play dice" พระเจ้าไม่ทอดลูกเต๋าหรอก หมายความว่าสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

18.สมองส่วนลึกหรือจิตใต้สำนึกจะทำงานเป็นส่วนแรก ด้วยความเร็วเพียง 1 ใน 30 วินาที ก่อนการคิด จิตใต้สำนึกจะส่งความรู้สึกเข้ามาผสม

19.ความสามารถใช้สติเข้าไปกำหนดตรงรอยต่อ 1 ใน 30 วินาที แล้วย้อนเข้าไปดูต้นเหตุที่ทำให้เกิดความคิด รู้ทันความคิดว่าเกิดจากการเหนี่ยวนำของเจตสิกตัวใดในจิตใต้สำนึก ปัญญานี้เป็นภาวนาปัญญาที่สูงสุด

20.สรรพสิ่งเกิดขึ้นจากการมีปฏิสัมพันธ์กัน ถ้าเราไม่กระทบด้วย ก็มีแต่ความว่าง
Nadda
Posts: 258
Joined: Tue 05 May 2009 8:20 pm

Re: สรุปย่อ เสียดายไอน์สไตน์ไม่ได้อ่าน-ทันตแพทย์สม สุจีรา

Post by Nadda »

21.มิติที่ 1-6 อธิบายเชิงพุทธศาสนา
2018-10-31 001.png 22.ปัจจุบันเครื่องมือที่คล้ายมิติที่ 5 คือ กล้องวงจรปิด เพียงแต่การย้อนอดีตของกล้องเป็นการฉายภาพที่บันทึกไว้ แต่การย้อนอดีตของมิติที่ 5 ทำได้ในระดับที่เราสามารถเข้าไปยืนอยู่ในเหตุการณ์ที่ย้อนนั้นได้เลย แต่แก้ไขอะไรไม่ได้เพราะเป็นภาพโฮโลแกรม

23.มิติที่ 6 สามารถมองเห็นสามมิติคู่ขนานได้ทุกจุดในเวลาเดียวกัน เหมือนกับกล้องวงจรปิดในห้อง รปภ ที่สามารถส่องดูได้ทุกจุดในคอนโดเพียงแต่จะไม่ใช่มุมมองแบบสองมิติอย่างที่เห็นในจอโทรทัศน์

24.พระพุทธองค์ทรงบอกว่า คนเราตายแล้วเกิดทันที ไม่ว่าจะไปในภพภูมิใด เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ เวลาเป็นสิ่งสมมติ เมื่อเสียชีวิตไป จิตวิญญาณจะไปอยู่ในอีกมิติที่มีเวลาเป็นเอกเทศเฉพาะตัว (ไม่ตรงกันยาวไม่เท่ากัน)
Post Reply