วิธีหาระยะเวลาการตาย
Posted: Wed 14 Nov 2018 2:16 pm
1. Livor mortis (lividity) ”Death Color” รอยจ้ำหลังตาย
เกิดจากเม็ดเลือดแดงที่ตกลงสู่เบื้องล่างเนื่องจากแรงดึงดูดของโลกหลังเสียชีวิต โดยจะเริ่มเกิดตั้งแต่ 1 – 2 ชั่วโมง จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ชัดเจนใน 5 – 7 ชั่วโมงและจะเกิดเต็มที่ใน 12 ชั่วโมง
วิธีการนี้ทําให้ทราบว่าสภาพศพขณะตายอยู่ในท่าอะไร เช่น นอนคว่ำตายจะพบ เลือดที่หน้าอก (เลือดตกลงไปสู่ที่จุดต่ำสุดตามแรงโน้มถ่วงของโลก) นอนหงายตายจะพบเลือดที่ด้านหลัง ศพที่แขวนคอตายจะพบเลือดที่ส่วนล่างของร่างกาย เช่น ขา
ถ้ามีการเคลื่อนยายอำพรางศพหลังตาย คือหลังจาก 8-12 ชั่วโมง lividity จะเริ่มอยู่ตัว(fixed) เมื่อกลับท่าของศพเม็ดเลือดแดงก็จะไม่เคลื่อนหรือไหลไปอยู่ในที่ใหม่ หากมีส่วนที่กดทับอยู่ จะทำให้ผิวหนังส่วนนั้นบุ๋มเข้าไป บริเวณนั้นจะเป็นสีขาว เพราะเม็ดเลือดจะกระจายไปอยูในส่วนที่ต่ำกว่า ตัวอย่างเช่น รอยกดจากเสื้อยกทรง รอยเข็มขัด นาฬิกา
Lividity ที่มีสีชมพูสดพบได้ในรายที่ตายจากพิษคาร์บอนมอนอกไซด์ หรือ ไซยาไนด์ หรือการที่ศพอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นจัด
Lividity ที่มีสีเทาคลํ้า มักพบในรายที่ตายจากการขาดอากาศ
และในบางครั้งเลือดที่ไปคั่งอยู่บริเวณนั้นมากๆทำให้เกิดแรงดันและอาจจะทำให้ เส้นเลือดฝอยบริเวณนั้นแตกเกิดเป็นจุดเลือดออก เรียกว่าทาร์ดู (Tardieu spot) ซึ่งมักจะพบเมื่อเกิด lividity นานๆเช่น 18-24 ชั่วโมง
เมื่อตายเกิน 36-48 ชั่วโมง การสังเกตุท่าทางของศพโดยอาศัย lividity จะเชื่อถือไม่ได้อีกต่อไป เพราะสีของผิวหนังในช่วงเวลานี้จะเปลี่ยนแปลงไปมาก
เกิดจากเม็ดเลือดแดงที่ตกลงสู่เบื้องล่างเนื่องจากแรงดึงดูดของโลกหลังเสียชีวิต โดยจะเริ่มเกิดตั้งแต่ 1 – 2 ชั่วโมง จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ชัดเจนใน 5 – 7 ชั่วโมงและจะเกิดเต็มที่ใน 12 ชั่วโมง
วิธีการนี้ทําให้ทราบว่าสภาพศพขณะตายอยู่ในท่าอะไร เช่น นอนคว่ำตายจะพบ เลือดที่หน้าอก (เลือดตกลงไปสู่ที่จุดต่ำสุดตามแรงโน้มถ่วงของโลก) นอนหงายตายจะพบเลือดที่ด้านหลัง ศพที่แขวนคอตายจะพบเลือดที่ส่วนล่างของร่างกาย เช่น ขา
ถ้ามีการเคลื่อนยายอำพรางศพหลังตาย คือหลังจาก 8-12 ชั่วโมง lividity จะเริ่มอยู่ตัว(fixed) เมื่อกลับท่าของศพเม็ดเลือดแดงก็จะไม่เคลื่อนหรือไหลไปอยู่ในที่ใหม่ หากมีส่วนที่กดทับอยู่ จะทำให้ผิวหนังส่วนนั้นบุ๋มเข้าไป บริเวณนั้นจะเป็นสีขาว เพราะเม็ดเลือดจะกระจายไปอยูในส่วนที่ต่ำกว่า ตัวอย่างเช่น รอยกดจากเสื้อยกทรง รอยเข็มขัด นาฬิกา
Lividity ที่มีสีชมพูสดพบได้ในรายที่ตายจากพิษคาร์บอนมอนอกไซด์ หรือ ไซยาไนด์ หรือการที่ศพอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นจัด
Lividity ที่มีสีเทาคลํ้า มักพบในรายที่ตายจากการขาดอากาศ
และในบางครั้งเลือดที่ไปคั่งอยู่บริเวณนั้นมากๆทำให้เกิดแรงดันและอาจจะทำให้ เส้นเลือดฝอยบริเวณนั้นแตกเกิดเป็นจุดเลือดออก เรียกว่าทาร์ดู (Tardieu spot) ซึ่งมักจะพบเมื่อเกิด lividity นานๆเช่น 18-24 ชั่วโมง
เมื่อตายเกิน 36-48 ชั่วโมง การสังเกตุท่าทางของศพโดยอาศัย lividity จะเชื่อถือไม่ได้อีกต่อไป เพราะสีของผิวหนังในช่วงเวลานี้จะเปลี่ยนแปลงไปมาก