ข้อควรรู้เกี่ยวกับกล้อง IP Camera
กล้องทั่วไปจะส่งภาพได้แค่ 2 ชนิดเท่านั้น
1. http/https จะส่งภาพแบบ MJPEG และภาพยังเป็นแบบไม่เข้ารหัส
2. rtsp จะส่งภาพแบบ H.264 ซึ่งประหยัดแบนวิธถึง 50% ไม่มีการเข้ารหัสใดๆ
กล้องทั่วไปมีวิธีเชื่อมต่อ 2 ชนิด
1. มีระบบเวปศูนย์กลางจัดการการเชื่อมต่อ
- ผู้ใช้ไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้วุ่นวาย สามารถมองเห็นกันได้โดยง่าย เพราะทุกกล้องจะต้องติดต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ศูนย์กลางก่อน
- มักจะเปลี่ยนผู้ให้บริการไม่ได้ ซื้อยี่ห้อไหนก็ต้องใช้ของเจ้านั้นไปตลอด
2. ต้องตั้ง port forward
- คนภายนอกสามารถโจมตีหรือแฮกได้ง่าย เพราะ open port ไว้
- ถ้าเราเตอร์เปิดโหมด uPnP ไว้ก็ไม่ต้องตั้งค่าอะไรวุ่นวาย แต่เราเตอร์เก่าๆจะมีช่องโหว่ uPnP ทำให้โดนแฮกได้ ควรใช้เราเตอร์ที่อัพเฟิร์มแวร์ใหม่ๆ
- เราสามารถตั้งค่า port forward แบบแมนนวลได้ โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรืออ่านคู่มือของเราเตอร์นั้นๆ
ข้อดี
- สามารถดูภาพได้จากทุกโปรแกรม เพราะใช้มาตราฐาน web ธรรมดา
- สามารถควบคุมกล้องได้ เปิดปิดไฟ หมุนกล้อง ได้จากทุกโปรแกรม
- สามารถพูดคุยกันได้
- สามารถอัพโหลดวีดีโอไปยังคลาวด์ได้ เช่น Dropbox หรือ Google Drive บางกรณีโจรจะทำลายหรือขโมยกล้อง
- สามารถตั้งโซนตรวจจับความเคลื่อนไหวได้ แจ้งเตือนได้ทุกช่องทาง รวมทั้งอัพโหลดคลิป
ข้อเสีย
- กล้องทั่วไป ยังไม่มีการเข้ารหัสภาพ
- โหมด https เป็นแบบ self-signed certificate
- โหมด http และ rtsp โดนแฮกล็อคอินได้ง่าย
- เปลืองแบนวิธมาก ภาพขนาด 720p ใช้ประมาณ 800 kb/s สำหรับ MJPEG คุณภาพ 75%
- ถูกตัดสัญญาณไวไฟได้ง่ายด้วยเครื่องแจมเมอร์
- ต้องติดต่อ ISP เพื่อขอใช้ public IP ยกเว้นกล้องที่มีระบบบริหารการเชื่อมต่อ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับกล้อง IP Camera
Re: ข้อควรรู้เกี่ยวกับกล้อง IP Camera
ณ ปัจจุบันนี้ IPv4 ถูกใช้จนหมดโลกแล้ว พวก ISP จึงมักจะให้เป็น private IP (บางครั้งก็จะเรียกว่า reserved IP) จึงเปรียบเสมือนว่าเราอยู่หลังเราเตอร์สองตัว port forward จะไม่สามารถใช้การได้ เพราะต้องตั้งค่าทั้งสองเราเตอร์
วิธีแก้จะต้องโทรบอกทรูว่า "ดูกล้องวงจรปิดไม่ได้" เขาจะเข้าใจเอง แล้วเขาจะปิดระบบ NAT ให้ ซึ่งเหมือนกับการถอดเราเตอร์ตัวแรกออกไป WAN IP (บางครั้งก็จะเรียกว่า external IP) ก็จะกลายเป็นแบบ public IP