Panasonic http://www.rsbattery.com/
GS http://www.gsbattery.co.th/
3K http://www.3kbattery.co.th/
YUASA http://www.yuasathai.com/
Bolident http://www.siampangroup.com/
FB http://www.fbbattery.com/
PUMA http://www.thaipuma.com/
ประเภทต่างๆของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ชนิดตะกั่วกรด แบ่งออกตามลักษณะการใช้งานได้ เป็น 2 แบบ
1. แบบธรรมดา (Conventional) เป็นแบตเตอรี่ ที่ใช้โลหะตะกั่วผสมพลวงเหมาะกับการใช้งานทั่วไป
2. แบบไม่ต้องบำรุงรักษา (Maintenance Free) ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
2.1 แบบผสมพลวงต่ำ เป็นเทคโนโลยีดั้งเดิมของทางยุโรปปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้งาน เพราะอายุการใช้งานไม่ค่อยนาน และยังต้องดูแลการเติมน้ำกลั่นบ่อยกว่า
2.2 แบบไฮบริด (HYBRID) ใช้ตะกั่วผสมแคลเซียมในโครงแผ่นธาตุลบ เป็นเทคโนโลยีของญี่ปุ่น มีข้อดีคือ อายุการใช้งานทนทานกว่าแบตเตอรรี่ธรรมดา และไม่ต้องกังวลเรื่องเติมน้ำกลั่น การใช้งานจริงจึงสามารถเติมน้ำกลั่นทุกๆ 5,000 หรือ 10,000 กม. พร้อมกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่ทนทานกว่า Calcium MF ในภาวะที่ใช้งานหนัก (Deep Cycle Heaty Duty) เช่น รถบรรทุก,รถโดยสาร และรถรับจ้าง
2.3 แบบแคลเซียม แมนเทนแนนซ์ฟรี (Calcium Maintenance Free) ใช้ ตะกั่วผสมแคลเซียมทั้งในโครงแผ่นธาตุบวกและลบ มีคุณสมบัติดีกว่า HYBRID คือไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน แต่ในเมืองไทยที่มีอากาศร้อนดังนั้นอาจต้องมีการเติมน้ำกลั่นบ้าง ในเมืองไทยรถยนต์ที่ประกอบตั้งแต่ปี 2545 จะใช้แบตเตอรี่ชนิด Calcium MF ทั้งหมด แต่มีข้อด้อยกว่าในเรื่องความทนทานในการใช้งานหนัก เมื่อต้องจ่ายกระแสไฟมาก (Deep Cycle Heavy Duty) เช่น รถบรรทุก,รถโดยสาร และรถรับจ้าง
ในปัจจุบันในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ญี่ปุ่น จะใช้แบตเตอรี่ 2 ชนิด คือ HYBRID และ Calcium MF โดยแบตเตอรี่ HYBRID จะใช้สำหรับรถบรรทุกที่ต้องใช้งานหนัก ส่วนรถ Passenger Car หรือ รถยนต์นั่ง จะใช้แบตเตอรี่ Calcium MF เพราะสะดวกต่อการใช้งาน และไม่ต้องบำรุงรักษา